WAN WAN SEARCH


WANWAN HISTORY

แปลจากต้นฉบับเว็บไซต์ภาษาจีน

ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี

บุคคลแห่งปี ในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ ประจำปี 2005
วานวาน ดาวดวงใหม่แห่งเว็บบล็อก ปาฏิหาริย์แห่งวงการสื่อสิ่งพิมพ์


คืน ที่ผู้คนทั้งประเทศกำลังเคาน์ดาวน์อย่างสนุกสนาน วานวานผู้ชื่นชอบดูหนังสยองขวัญกลับต้องฝันร้าย ฝันว่าตนเองยืนอยู่บนเวทีรับรางวัล “ผู้มีอิทธิพลในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ ประจำปี 2005” ของร้านหนังสือ Kingstone เผชิญกับใบหน้าที่แปลกตาหลายร้อยคน อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว ส่วนคุณแม่ก็ยืนตื่นเต้นอยู่ล่างเวที...

วานวานหวีดร้องเสียงหลง... มันอาจจะเป็นเพียงความฝันจริงๆ กระมัง ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ไปรับรางวัลได้ไหมเนี่ย



สุดยอดหนังสือตาบอด

หลัง จากหนังสือภาพเรื่อง “ไม่ไปทำงานได้ไหมเนี่ย Diary ภาพของวานวาน” ขายหมดห้าหมื่นเล่มในระยะเวลาสองสัปดาห์ สำนักพิมพ์เพิ่งพบว่า ชื่อเว็บบล็อกที่พิมพ์หราอยู่บนปีกปกหน้าของหนังสือนั้นผิดพลาด เนื่องจากขาดเส้นทับไปหนึ่งเส้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากคลิ้กเข้าไปในเว็บบล็อกไม่ได้ เมื่อสืบหาต้นตอ พบว่าความผิดพลาดเกิดจากตัวผู้แต่งที่มีนามว่า วานวาน นั่นเอง คุณหวง จวิ้นหลง (เจ้าของสำนักพิมพ์ ควบตำแหน่งผู้วางแผนการไปจนถึงเด็กเดินเอกสาร) ไม่เคยคิดฝันว่า วานวานจะป้ำเป๋อถึงขนาดเขียนที่อยู่เว็บบล็อกของตนเองผิดมาให้ เหมือนกับว่าบอกที่อยู่ของบ้านตัวเองที่พักอาศัยร่วมสิบแปดปีผิดพลาดนั่นเอง จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง แต่วานวานก็เขียนผิดมาจนได้

หญิง สาวนามวานวานผู้นี้ เว็บบล็อกของเธอหลังเปิดใช้เป็นเวลาหนึ่งปีกว่า มีจำนวนผู้เข้าชมมากกว่าหกล้านครั้งแล้ว โดยเฉลี่ยผู้เข้าชมประมาณหนึ่งแสนครั้งต่อวัน สถิติสูงสุดคือสามแสนครั้ง พร้อมกับฝากข้อความเอาไว้ยาวเหยียด ไร้ผู้เทียมทานในเกาะไต้หวัน ภาพดิสเพลย์ MSN ที่เธอออกแบบ ถูกดาวน์โหลดไปใช้อย่างแพร่หลาย ถึงกับมีค่ายเพลงแห่งหนึ่งแอบอ้างนำไปใช้บนเว็บไซต์ของตน นิตยสาร “จินโจวคัน” จึงแต่งตั้งเธอเป็น “ราชินีน้อยแห่งเว็บบล็อก” เปรียบเธอว่า “ทรัพย์สินร้อยล้านอยู่แค่เอื้อม” สำหรับคนในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ต่างก็รู้ดีว่า ตัวเลขระดับนี้มันเกินความจริง แต่เมื่อนำมาใช้เปรียบเปรย “ปาฏิหาริย์ของวานวาน” กลับเป็นตัวเลขที่ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป พอดิบพอดี

“ไม่ ไปทำงานได้ไหมเนี่ย” ฉบับพิมพ์ใหม่ปกใหม่ ย่อมแก้ไขชื่อเว็บบล็อกที่พิมพ์ผิดแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งเพิ่มภาพและข้อความว่า “บอดสนิท” ลงไปด้วย เหตุใดจึงบอกว่าบอด หน้าปกว่าเอาไว้เช่นนี้
1.วางแผงสองสัปดาห์ “สุข” กับยอดขายห้าหมื่นเล่ม
2.ขึ้นอันดับหนึ่งร้านหนังสือออนไลน์ Kingstone, Books
3.ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณบอดกว่าใคร





ราชินีน้อยแห่งเว็บบล็อก ที่แสนจะธรรมดา

ใน ปี 2004 คณะกรรมการบรรณาธิการพจนานุกรมฉบับเหว่ยซือ เลือกคำว่า Blog (บล็อก) เป็นคำแห่งปี (Word of the year) เว็บบล็อกเปิดฉากปฏิวัติการสื่อสารครั้งที่สองของมันเองเงียบๆ เพื่อประกาศให้รู้ว่า นี่เป็นยุคของการประชาสัมพันธ์ตนเองแล้ว บรรดาคนดังอย่าง หลอเจียเหวิน, เสิ่นฟู่สยง, SHE, เสี่ยว S มีบล็อกของตนเองได้ อาแมว อาหมาทั้งหลายก็สามารถบล็อกกันไปบล็อกกันมาได้เช่นกัน สาวน้อยนางหนึ่งนามว่าหูเจียเหวย ผู้ที่ชั่วชีวิตชื่นชอบอยู่อย่างเดียวก็คืออ่านการ์ตูนและวาดการ์ตูน ปลายปีนั้นเองก็ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของบล็อกที่ http://www.wretch.com เริ่มต้นเธอก็ขีดๆ เขียนๆ บันทึกประจำวันของตนเองลงไปเหมือนคนอื่นๆ ต่อมาพบว่าตนเองเป็นคน “ตาบอดหนังสือ” ที่ไม่เคยตั้งใจอ่านหนังสือเอาเลยจริงๆ เพราะฉะนั้นวาดเอาง่ายกว่า จึงเริ่มลงมือวาดภาพการ์ตูนแนวน่ารัก ระบายความรู้สึกและเรื่องราวขบขันในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงานและในครอบครัวของตนเองออกมา ส่วนที่มาของชื่อ “วานวาน” เนื่องจากละครชื่อดังเรื่อง “ซิงซิง จือ หว่อซิน” เมื่อปี 1983 ดาราเด็กประจำเรื่องที่ชื่อวานวาน มีชื่อจริงว่าหูเจียเหวย เช่นกัน เธอจึงตั้งนามปากกาให้ตนเองว่า “วานวาน” บ้าง

ใน การ์ตูน วานวานวาดรูป “ตนเอง” เป็นคนหัวล้าน กลมๆ แบนๆ โปร่งๆ โล่งๆ เหมือนมนุษย์ต่างดาว ลายเส้นเรียบง่ายยิ่งกว่า “ขนมปังไหม้เกรียม” เสียอีก ในระดับหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีหน้ามีตาคนหนึ่งเช่นนั้น ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทะเลคน ไปโรงเรียนในเวลาที่ควรไป สำเร็จการศึกษาในเวลาที่ควรสำเร็จ แต่ตอนเรียนจบเมื่ออายุสิบเก้าปี เธอไม่รู้ว่าควรจะเรียนต่อหรือหางานทำ บังเอิญรุ่นพี่ของโรงเรียนศิลปะฟู่ซิง มาขอตัวเธอไปช่วยงาน เธอจึงเริ่มทำงาน จนกระทั่งก่อนจะเข้ามารับงานออกแบบเว็บไซต์ให้กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ขณะนี้ วานวานยังไม่ค่อยรู้จักคอมพิวเตอร์เท่าไหร่นัก “ฉันเป็นคนที่เรียนรู้ของใหม่ๆ ช้ามาก” วานวานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

เหมือน อย่างที่วานวานพูดเกี่ยวกับตนเอง เธอไม่มีวงศ์ตระกูลที่โดดเด่น การศึกษาหรือยศตำแหน่งที่อวดใครได้ นิสัยไม่เฉื่อยแฉะแต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นนักหนา ป้ำเป๋อเล็กน้อย ไม่สามารถต้านทานต่อเสื้อผ้าสวยๆ บางครั้งก็ย้อมผม ทาเล็บเพื่อความสวยงาม ขี่รถมอเตอร์ไซค์ อาศัยรถไฟฟ้า พกกล่องข้าวไปทำงาน หลังเลิกงานกลับถึงบ้านก็วิ่งไล่กับไกไก (สุนัขประจำบ้านของวานวาน) รักใคร่ปรองดองกับคนในครอบครัว เอะอะป้ะเทิ่ง ความฝันอันสูงสุดก็คือพยายามหาเงิน ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่งงานมีครอบครัว ถ้าเป็นไปได้ ก็มีผลงานการ์ตูนของตนเองสักเล่ม


จับพลัดจับพลู ตะลุยเมืองหนังสือ

วาน วานเป็นคนธรรมดาที่เหมือนกับคนทำงานบริษัทระดับรากฐานทั้งหลาย ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งไม่สามารถวาดภาพตนเองอีกสิบปีให้หลัง ว่าจะเป็นอย่างไรในแวดวงอาชีพ “นักเขียนเบสท์เซลเลอร์” ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนในชีวิต

แต่ เมื่อชาวอินเทอร์เน็ตนับล้าน ที่เข้าสู่เว็บบล็อกของวานวานผ่านทาง MSN พร้อมกับมีคนมากขึ้นๆ บอกกับวานวานว่า ภาพการ์ตูนของเธอ ได้สร้างความสุขให้กับชีวิตที่น่าเบื่อ ซ้ำซากจำเจของพวกเขาอย่างยิ่ง บรรดาสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่มีประสาทสัมผัสว่องไว จึงเริ่มต้น “ออกล่า” ซึ่งนั่นหมายความว่า ชีวิตที่แสนธรรมดาของวานวาน กำลังจะถึงจุดเปลี่ยน เข้าสู่โลกอีกโลกหนึ่ง

สำนัก พิมพ์ Revolution star ไม่ใช่สำนักพิมพ์แรกที่ติดต่อวานวาน แต่วานวานเลือกที่นี่ ด้วยเหตุผลที่ง่ายมาก “เพราะมันเป็นสำนักพิมพ์ของคุณหวงจวิ้นหลงคนเดียว” สำหรับวานวานแล้ว “สำนักพิมพ์ใหม่ ของคนคนเดียว” หมายถึงทั้งความเป็นอิสระและความเสี่ยง แต่นั่นเป็นสิ่งที่เธอไขว่คว้ามานานแล้ว “ฉันอยากลองเสี่ยง”

เว็บ บล็อกนั้นมีจำนวนมากมายเหมือนกับมดบนผิวโลก เหมือนกับดาวบนท้องฟ้า คนเราชั่วชีวิตหนึ่งจะท่องเว็บบล็อกได้สักกี่เว็บกัน วันหนึ่ง คุณหวงจวิ้นหลงพบว่า ใน MSN มีแต่คนที่ใช้ภาพดิสเพลย์ชนิดหนึ่ง แสดงอารมณ์ เขิน, เศร้า, หนาว, สบาย, เหนื่อย, ยืด, รำคาญ, ช๊อก... มีทั้งที่คุณคิดถึงและที่คุณคิดไม่ถึง “ใครเป็นคนวาดภาพดิสเพลย์น่ารักๆ เหล่านี้ขึ้นมานะ” เขาไม่รู้ที่มาที่ไปของภาพพวกนี้ จึงพยายามค้นแล้วค้นอีก หลังจากพยายามอยู่นาน ในที่สุดก็คลิ้กเข้ามาถึงเว็บบล็อกของวานวาน ได้พบกับผู้สร้างสรรค์ตัวจริง อีกทั้งต้องตกใจกับจำนวนผู้เข้าชม จนทำให้เขาต้องถอยออกไปตั้งหลักหนึ่งเมตร แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่ทำให้หวงจวิ้นหลงอยากพิมพ์หนังสือให้วานวาน ภาพการ์ตูนของวานวานนั้นใกล้เคียงกับสภาพชีวิตจริงของคนในยุคปัจจุบัน มันสื่อถึงสภาพจิตใจของทุกคน ทำให้ผู้อ่านได้ผ่อนคลาย มีความสุข แม้แต่ตัวหนังสือที่เขียนผิดภายในภาพ ก็ยังบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติ หากมีเพียงแค่ตัวเลขผู้เข้าชม นั่นกระตุ้นต่อมความคิดทำหนังสือของคุณหวงจวิ้นหลงไม่ขึ้นหรอก

รอ จนกระทั่งตัดสินใจจะพิมพ์หนังสือ เนื่องจากภาพเก่าๆ มีค่าความละเอียดต่ำ วานวานจึงต้องวาดใหม่ทั้งหมด ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งยืนยันว่า วานวานไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นหนังสือตั้งแต่แรก โดยพื้นฐานแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ช่างจัดการบริหารตัวเอง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างจิมมี่ เลี่ยว Nara Yoshitomo เพียงแค่อยากโยนทุกสิ่งที่มันเป็นทุกข์ไปไว้นอกบล็อก วาดตัวเองเงียบๆ วาดแต่เรื่องที่สนุกสนาน แต่ในชีวิตคนเรา เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นอย่างนี้เสมอ

ยัง มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ อันที่จริงวานวานเหมือนมีสองคน วานวานคนหนึ่งเป็นหญิงสาววัยรุ่นทั่วไป มีความคิด ความฝันของตนเอง กล้าจะลองของ ไม่มีอุดมการณ์อะไรยิ่งใหญ่ วันทั้งวันออนอยู่ในอินเทอร์เน็ต ชอบเล่นเกมส์ “สงครามเวียดนาม” แต่วานวานอีกคนหนึ่ง ไม่สามารถแยกแยะได้ด้วย “วัย” ยกตัวอย่างเช่น เธอแทบจะไม่ดูทีวี ไม่มีเครื่องเล่น mp3 หรือ ipod มือถือเครื่องหนึ่งยี่ห้อโนเกีย ใช้มาห้าปีแล้วก็ยังใช้ต่อไป...

“ไม่ ไปทำงานได้ไหมเนี่ย” สวนกระแสตลาดในช่วงปลายปี 2005 ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเลือกตั้ง คุณหวงจวิ้นหลงคาดการณ์ไม่ผิด คนในยุคนี้ต้องการความสนุกสนาน ต้องการหลบหลีกไปจากกลิ่นอายการเมืองที่มืดครึ้มอึมครึม กลับไปเสาะหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน หนังสือของวานวานจึงมีลักษณะพิเศษ “ข้ามวัย” ตามแบบฉบับของตัวเธอ ผู้อ่านมีมาจากทุกเพศ ทุกวัย ทุกรุ่นและทุกสาขาอาชีพ พวกเขาต่างก็มีชีวิตความเป็นอยู่ลักษณะเดียวกัน

วาน วานยังชื่นชอบการทำงาน ดังนั้น “ไม่ไปทำงานได้ไหมเนี่ย” ชื่อของหนังสือเล่มนี้ทำให้เธอกลุ้มใจอยู่เหมือนกัน หลังจากโด่งดังแล้ว เธอยังไปทำงานเหมือนเดิม แน่นอนเธอยังคงสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ต้องก้าวขึ้นเวทีเพราะแจกลายเซ็น อีกทั้งสื่อมวลชนที่ติดต่อขอสัมภาษณ์เธออย่างไม่ขาดสาย เธอยังยืนยันจะรักษาสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างที่เคยเป็น เป็นตัวของเธอเองคนเดิม สำหรับหนังสือเล่มหน้า สำนักพิมพ์ Revolution star เคยประกาศว่าวานวานจะวาด “ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมเนี่ย” แต่คุณหวงจวิ้นหลงคิดว่า “ในเมื่อทุกคนต่างก็พูดแบบนี้ พวกเราก็ทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า” ไม่อะไรดีล่ะ? เป็นหัวข้อที่น่าสนุก ชาวบล็อกนับล้านคนสามารถช่วย “เลือกเพลง” ให้วานวานได้ ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมเนี่ย ไม่ลดความอ้วนได้ไหมเนี่ย ไม่เรียนคณิตได้ไหมเนี่ย...

ในที่สุด วานวานก็สามารถเริ่มวาดภาพของอนาคตที่แตกต่างไปจากเดิมได้เสียที

Saturday, April 18, 2009

wanwan ตอน ปัญหายุ่งยากของสาวน้อย

ซีรี่ส์นี้ จะเป็นซีรี่ส์ใหม่ของวานวาน

เป็นการทดลอง "แต่ง" เรื่อง โดยไม่ใช่ "เกิดกับตัว"

wanwan comics

女生費盡心思打扮是件很可愛的行為啊
當然為了安全,安全帽是一定要戴的啦
不過當下應該是會蠻囧的吧...

หญิงสาวพยายามแต่งสวย เป็นเรื่องที่น่ารักมาก
แต่เพื่อความปลอดภัย หมวกกันน๊อกก็ต้องสวม
พอถึงเวลานั้น คงกระอักกระอ่วนน่าดูเนอะ...


這兩個角色之後還會常出現
男的算是個老實木頭人,女的就是跟他交往初期的浪漫女..

希望大家會喜歡喔~

ตัวละครทั้งสองนี้ต่อไปจะออกมาบ่อยๆ
ผู้ชายเป็นพวกซื่อจนเซ่อ ส่วนผู้หญิงเป็นหญิงสาวแสนโรแมนติกที่เพิ่งคบกันระยะแรก..

หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบ

ป.ล.

ตอนหน้าจะลงภาคสอง

sana อัพเดทไปเมื่อวันก่อนแล้ว แต่อาจผิดพลาดที่ไม่ไปแจ้งอัพเดทกับเพื่อนๆ

ยังไงก็ไปให้กำลังใจกันด้วยน้า

be-beer ยังสามารถส่งคำตอบเข้าร่วมลุ้นหนังสือมูลค่ารวมร่วมสองพันบาทได้นะคับ

(พูดให้ฟังดูเยอะไปงั้น)

wanwan ตอน ต้นมะละกอ

กลับมาเข้าเรื่องวานวานตอนเด็กอีกครั้งดีกว่า

木瓜樹

請不要去求證說小木瓜樹長哪樣..我忘記了啦..
กรุณาอย่าทวงถาม ว่าต้นมะละกอหน้าตาเป็นอย่างนี้หรือ... คือ ฉันลืมไปแล้วอ่ะ...

wanwan comics

雖然那時才5年級..
但同學太有遠見..真的被他說中了....

居然預測到我發育不良... Orz

ถึงแม้ตอนนั้นเพิ่งจะป.ห้า...
แต่เพื่อนๆ มันดันมองเห็นการไกล... ดันพูดตรงจนได้...

รู้ได้ไงว่าโตขึ้น ฉันจะตัวไม่โต... wanwan comics

疑 偏離主題了
เอ๋ ดูเหมือนจะนอกเรื่อง

就那時無心的種子沒想到可以成長
看他一天天的長大那種心情很有成就感喔^^

(不過最後還是枯死了.....)

เอาเป็นว่า ตอนนั้นก็ปลูกเมล็ดมะละกอไปเรื่อย
ไม่ได้คิดว่ามันจะโตขึ้นจริงๆ
แต่พอมันเห็นมันงอกเงยขึ้นมานะ รู้สึกภูมิใจมากเลย ^^

(แต่ทีหลังมันก็เฉาตาย...)

ปล.
ขออภัยที่ใช้ "ยิ่งหย่ายย" อ่ะ เพราะโปรแกรมพิมพ์ "ญ.หญิง" ไม่ได้อ่ะครับ
(ไม่ได้ตั้งใจจะแอ๊บแบ้วเลยนะ แหะๆ)

wanwan comics

อย่างนี้เรียกว่าขาดสารอาหารไหมอ่า

(การ์ดอวยพรที่แฟนๆ ทำให้ตอนวันแจกลายเซ็นหนังสือเล่มใหม่)

ประกาศ

ไปตอบคำถามใน be-beer เพื่อลุ้นรับหนังสือนะคร้าบบบ

edit

แก้ไข โดยการเอารูปมาแปะไว้ใน exteen แทนที่ลิงค์มาจากเว็บเดิมแล้วครับ

(คุณลุง เห็นรูปยังอ่า)

wanwan ตอน ความเข้าใจผิดในห้องน้ำ

廁所裡的誤會~

ตอนนี้เป็นตอนใหม่นะครับ วานวานเพิ่งอัพเดท เอามาแทรก คั่นรายการก่อน

(อ่านคำอธิบายด้านล่างให้จบด้วย เหอะๆ)

wanwan comics

คุณผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เข้ามาเช็คสักหน่อยว่าในห้องน้ำยังมีคนอื่นหรือเปล่า
คนคนนั้นก็พอดีตอนนั้นอั้นเอาไว้หรือยังไงไม่รู้ เงียงกริบไม่ส่งเสียง

ฉันจึงถูกตัดสินให้เป็นนักโทษไปโดยปริยาย

那位小姐也不進來確認過廁所裡有其他人..
那個人又剛好那時憋住還怎樣,完全不出聲..
所以就把我認定為犯人啦...wanwan comics


ซ้ำร้ายห้องน้ำเป็นประเภทที่หลายๆ บริษัทใช้ร่วมกันด้วย
ดังนั้นจึงเป็นพนักงานคนละบริษัทกัน...
ทำให้ฉันไม่มีแม้แต่โอกาสจะอธิบายแก้ตัว

ภายหลังคงมีคำร่ำลือในแผนกของบริษัทเขาว่า...
"บริษัทข้างๆ มีคนอยู่คนหนึ่งนะ อึเหม็นมาก..."
(ใครจะไปร่ำลือเรื่องพรรค์นี้ฟระ)

ใต้เท้า ข้าถูกใส่ร้ายยยยย

偏偏那廁所又是幾家公司共用的那種..
所以是其他公司的員工..讓我完全連辯解的機會都沒有..orz

之後大概會在他們部門流傳..
"隔壁公司裡有個人烙賽很臭....."(誰會流傳這麼無聊的東西....)

誤會啊大人....囧

ป.ล.

อยู่ระหว่างการคิดหาทางแจกหนังสืออยู่นะคร้าบ

wanwan ตอน ผู้ใหญ่ถูกเสมอ

ไหนๆ ก็เปิดซีรี่ส์วานวานวัยเด็ก เลยอัพตอนเด็กอีกตอน

(หากเอนทรี่เก่ารูปไม่ขึ้น นั่นเป็นเพราะเว็บที่ฝากรูปมันล่มนะครับ กรุณากลับมาใหม่วันหลัง)

ผู้ใหญ่ถูกเสมอ

大人的話都是對的

ดูต้นฉบับของตอนนี้ คลิ้กที่นี่


現在想想才覺得怪怪的
เดี๋ยวนี้มาคิดดูใหม่ เพิ่งรู้สึกว่ามันแปลกๆ

小學的時候...
ตอนเรียนประถม...

wanwan comics

คำแปลข้างบน "ยืนข้างๆ ที่โต๊ะ" เปลี่ยนเป็น "ยืนที่ข้างๆ โต๊ะ" นะครับ
เพิ่งเห็น ขี้เกียจกลับไปแก้ในโฟโตช้อปอ่า
(ช่วงนั้นพิมพ์ผิดบ่อยจัง)

ปล.

ตอนเช้าจะไปธุระแต่เช้า กลัวไม่ได้มาอัพ
ขออัพเอาตอนนี้เลยนะครับ
(จะเบิ้ลตอนเลือดกำเดาอีกตอนซะหน่อย เว็บฝากรูปล่มซะงั้น)

ปล. 2

เร็วๆ นี้จะร่วมกับบล้อก be-beer แจกหนังสือ
ใครมีไอเดียดีๆ เจ๋งๆ ไหมครับ
คาดว่าจะแจกวานวานเล่มหนึ่ง กับเกิดมาซน
เท่าที่ยังเหลือในสต๊อก (แอบทำสีซีดๆ อิอิ)

wanwan ตอน เลือดกำเดา

คำเตือน

ภาพโหด โฮ่ๆๆๆ

事情發生在小學時..
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสมัยประถม...

wanwan comics

啊..這算是小時候的笨事一件啦~
那時候根本什麼都不懂啊~
同學講什麼都嘛信XD
那時真的是嚇死我啦~~~~
มันก็นะ... นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเปิ่นสมัยเด็ก
ตอนนั้นไม่รู้อะไรเลยนี่นา
เพื่อนบอกอะไรก็เชื่อหมด
ตอนนั้นฉันช๊อกจริงๆ นะ


不過講到流鼻血..
我還蠻常流的說..
還曾經..俯著頭任它滴..看可以滴到什麼程度..(好變態啊我囧)
แต่พูดถึงเลือดกำเดาไหล...
ฉันไหลบ่อยเหมือนกันนะ...
เคยครั้งหนึ่ง ก้มหน้าปล่อยให้มันไหล
ดูว่ามันจะไหลได้สักกี่น้ำ... (โรคจิตชะมัด)

--------------------------------------------------------

還是要講一下止流鼻血的方法喔
聽說以前都是要平躺然後冰敷額頭好像都是錯誤的
(這樣血會流到口中,如果有血塊還可能阻塞呼吸道
มาพูดถึงวิธีห้ามเลือดกำเดาอย่างถูกวิธีกัน
ได้ยินว่าเมื่อก่อนเขาให้นอนลง แล้วก็เอาน้ำแข็งประคบหน้าผาก เห็นว่าเป็นวิธีที่ผิด
(เพราะเลือดจะไหลกลับเข้าปาก ถ้ามันจับเป็นก้อน อาจอุดตันทางเดินหายใจได้)

正確姿勢應採坐姿,最好背後有靠墊,頭微向前傾
ที่ถูกต้องคือต้องนั่ง เก้าอี้ควรมีพนักพิงหลัง แล้วเงยหน้าเล็กน้อย

用清潔棉花塞住流血的鼻孔,並以手指輕捏鼻翼,加壓止血,約五到十分鐘。
ใช้สำลีสะอาดอุดรูจมูก แล้วใช้นิ้วมือบีบปีกจมูกเบาๆ
กดเพื่อห้ามเลือดประมาณห้าถึงสิบนาที

---------------------------------------

大致上應該是這樣啦 其實我也不是很專業
如果大家有更正確更詳細的方法 還麻煩大家分享出來摟^^~
ก็คงประมาณนี้ อันที่จริงฉันก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญนักหรอก
ถ้าใครมีวิธีที่ละเอียดกว่านี้ ถูกต้องกว่านี้
ก็รบกวนนำมาบอกกล่าวกันบ้างเน่อ

edit เพิ่มเติม

คอมเมนต์ของwanwan comicsป้าหื่น เรื่องการห้ามเลือดกำเดา

ฮ่าๆๆ
ป้าจะช่วยบรรยายให้หยองกว่าเดิมดีไหม
ไอ้ก้อนนั่นมันไม่ใช่เลือดผสมน้ำมูกหรอก
มันคือลิ่มเลือดที่แข็งตัวตามรูปร่างของโพรงจมูกน่ะ
อารมณ์ประมาณก้อนเลือดหมูนั่นเอง
ปกติคนเราเลือดจะแข็งตัวได้เองในเวลาประมาณ 1-3 นาทีจ้า

ส่วนวิธีห้ามเลือดจริงๆต้องเป็นแบบหลัง คือนั่งตรง
หรือนั่งก้มหน้าก็ได้
แล้วเอามือบีบปีกจมูกไว้สักสามถึงห้านาที
เพราะส่วนใหญ่สาเหตุของเลือดกำเดาที่ไหลจะเกิด
จากการแตกของเส้นเลือดฝอยบริเวณปีกจมูก

แต่ถ้าทำแล้วยังไม่หยุดต้องหาหมอนะ
เพราะอาจจะต้องแพ็คจมูกเพื่อห้ามเลือดต่อเน่อ

ปล.ชอบความสร้างสรรค์ของหนุ่มน้อยคนนั้น
คิดได้ไงเนี่ย
โตขึ้นไปเป็นนักเขียนนิยาย(โรคจิต)ได้เลยนะนั่น

Thursday, April 9, 2009

wanwan ตอน กระโดดเตียง

跳床

เด็กดีอย่าเลียนแบบนะจ๊ะ

WANWAN

...就叫你不可以模仿啦..沒看到姐姐現在變這麼笨..囧
...ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเลียนแบบ ไม่เห็นเหรอ เดี๋ยวนี้พี่โง่แค่ไหน...

หลักฐานเพิ่มเติม

WANWAN

wanwan ตอน น้ำใส่มะนาว?

檸檬水~

ดูต้นฉบับตอนนี้ คลิ้กที่นี่

WANWAN

有沒有人跟我ㄧ樣過阿
壞掉的東西吃不出來
沒壞掉的反而自己胡思亂想囧

มีใครเป็นเหมือนฉันบ้างไหม
ของบูดจริงๆ กินไม่ออก
แต่ของไม่บูด กับคิดไปเองว่าบูด 囧

ps.

ภาพวานวานใน entry ที่แล้ว

ไม่ใช่พี่ kay นะครับ

(เป็นใครก็ไม่รู้ เหอๆๆ จำไม่ได้แล้ว)

wanwan ตอน ไม่มีผู้หญิงไม่สวย มีแต่...

posted on 07 Jun 2008 08:01 by wan-wan in diary

ตอน ผู้หญิงขี้เกียจ

October 17, 2007
懶女人~

WANWAN


這是我之前上班時的心得啦..
公司全都是正妹是怎樣....@0@
นี่เป็นความรู้สึกของฉัน สมัยทำงานออฟฟิศนะคะ...
อยู่ในบริษัทที่มีแต่สาวสวยก็งี้แหละ...


果然..如果不是天生麗質的話..
美麗的背後都是付出很多心力的阿...
當女生還真是辛苦阿~
不過不在意的人當然也是很自在啦
看自己怎麼想摟^^
สมแล้ว... ถ้าไม่ได้เกิดมาสวยเลือกได้ละก็...
เบื้องหลังความสวยงามนั้น
ต้องทุ่มแท เสียสละและเหน็ดเหนื่อยยิ่งนักแล...
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบากน่อ~
แต่สำหรับคนที่ไม่แคร์ ก็คงชิลชิลแหละเนอะ
ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนแหละนะ ^^

上班族男生有什麼累的嗎?分享來看看~
(也許可以降低我的偏見XD)
刮鬍子那些應該還好吧...
หนุ่มออฟฟิศทั้งหลายละ ต้องเหนื่อยอย่างนี้เหมือนกันหรือเปล่า
เล่าให้ฟังหน่อยสิ
(อาจช่วยลดอคติที่ฉันมีลงบ้างก็ได้นะ )
อย่างโกนหนวดอะไรเทือกนั้น มันก็คงไม่เท่าไหร่ใช่ไหม...

ตอนนี้ แต่งหน้าหรือยังหว่า

WANWAN

wanwan ตอน เล่นมินิเกม

ตอน มินิเกม

小遊戲~

WANWAN

這是以前還在上班時的事情... ...我真的有這樣過...
故意把那些東西留到公司殺時間...(然後還在公司玩到破關...)
真的是壞榜樣阿...囧
นี่เป็นเรื่องเมื่อสมัยยังทำงานออฟฟิศอ่ะ...
ฉันเคยเป็นอย่างนั้นจริงๆ
เก็บของพวกนี้ไว้ฆ่าเวลาที่บริษัท (บางทีเล่นจนน๊อกเกม ในบริษัทนั่นแหละ...)
เป็นแบบอย่างไม่ดีเลยเนอะ... 囧

ป.ล.

ไปช่วยกันแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณคร้าบบ

จดหมายจากปี 2070

Tuesday, April 7, 2009

wanwan ตอน ลืมกุญแจ

車鑰匙~

เป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนแล้ว

WANWAN

那次真的是完全放空不知道自己在想什麼
就把裝有鑰匙的包包放進車廂裡了= =
還好附近有鎖店,不然真不知道該去哪找阿
(雖然我也是花很多時間提起很大的勇氣才走入店裡的)←當時還是不敢跟陌生人說話的年紀..

คราวนั้นฉันใจลอยไม่รู้ตัวเองคิดอะไรอยู่จริงๆ
จับกระเป๋าที่ใส่กุญแจเอาไว้เก็บใส่ใต้เบาะซะงั้น
โชคดีที่ใกล้ๆ มีร้านกุญแจ ไม่งั้นไม่รู้จะไปหาที่ไหนดี
(ถึงแม้ฉันต้องใช้เวลารวบรวมความกล้าอยู่นานมาก ถึงจะเดินเข้าร้านไป)
สมัยนั้นยังอยู่ในวัยที่ไม่กล้าคุยกับคนแปลกหน้า...

不過我也真的是鬼打牆般的一直講同句話..
"啊我包包就在裡面咩~~~"
雖然鎖匠有他的顧慮在~..但是...
啊我包包就在裡面咩(又鬼打牆講一次)我能怎麼辦?@@~~~

แต่ตอนนั้นฉันก็พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่คำเดียวจริงๆ นะ
"ก็กระเป๋าฉันอยู่ในนั้นนี่นา..."
ถึงแม้ว่าช่างกุญแจเขาก็มีความกังวลของเขา แต่ว่า...
ก็ กระเป๋าฉันอยู่ในนั้นนี่นา... (พูดซ้ำอีกครั้ง)
ก็จะให้ฉันทำไงล่ะ

但是真的不要把貴重物品放在車廂內喔
最近竊賊的手法真是快狠準
很容易被偷的,所以要小心喔~
(我是意外啦..不是故意放的...QQ)

แต่ทุกคนอย่าเก็บของมีค่าไว้ใต้เบาะรถเลยนะ
หมู่นี้ฝีมือของโจรทั้งรวดเร็วฉับไวและแม่นยำ
จะถูกขโมยได้ง่ายนะค่ะ ต้องระวังให้ดี
(ส่วนของฉันมันเป็นอุบัติเหตุนะ ไม่ได้ตั้งใจ T T...)

ปล.

จขบ. เคยลืมกุญแจไว้ในรถ

โอย ตอนนี้ต้องทำกุญแจสำรองใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์

กับอีกสารพัดเรื่องลืม นึกแล้วปวดใจ T T

แถม

ผลงานเก่าๆ ของวานวาน

WANWAN

WANWAN


เชิญชวนไปชมสไลด์

"จดหมายจากปี 2070" เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก

ในบอร์ดของ exteen ด้วยครับ

wanwan ตอน กระโปรง_เกือบไป

裙子~ กระโปรง

ดูต้นฉบับตอนนี้ คลิ้กที่นี่

WANWAN

大家要多多注意自己的服裝儀容喔.... 免的悔憾終生啊...囧rz

那天的裙子...

ทุกคนต้องระวังการแต่งกายของตัวเองมากๆ น้า... จะไม่ได้ต้องเสียใจจนชั่วชีวิต...

กระโปรงวันนั้น

WANWAN

(พิมพ์ผิดคำว่า "น่าแดง" ต้องเป็น "หน้าแดง" ขี้เกียจตามกลับไปแก้นะคร้าบบ)

วันละสอง entry นะครับ พี่น้องคร้าบบบ

wanwan ตอน เหตุผลข้ออ้าง

ตอน เหตุผล

October 25, 2007
理由~

WANWAN

這真的是選擇性沒錢阿~~~
แบบนี้มัน ไม่มีเงินแบบเลือกได้นี่นา

還有啊,不想答應就算了,有時候理由還怪怪的
อีกอย่างนะ ไม่รับปากก็แล้วไป แต่เหตุผลบางทีแปลกๆ อย่างเช่น

像是..

A: ㄟ那天要不要去唱歌? นี่ ไปร้องเพลงกันไหม
B:ㄜ...我喉嚨怪怪的說 เอ่อ... รู้สึกคอมันแปลกๆ อ่ะ
A:沒差吧 來玩阿 ไม่เป็นไรหรอกน่า มาเที่ยวกันสนุกๆ
B:...我沒錢耶 ...ฉันไม่มีตังค์อ่ะ
A:那天C會請客啦 วันนั้นนาย C จะเลี้ยง
B:........(思考) ... (คิด)
B:其實....我不想去 ... อันที่จริง... เราไม่อยากไปอ่ะ....
A:....不想去就說阿..=_=(講一堆理由幹麻)
ไม่อยากไปก็บอกสิ (อ้างซะมากมายทำไม)

不過這也算是不想直接拒絕別人的一種善意啦
(所以阿,男生你在約女生的時候,如果對方用很鳥的理由拒絕你..你大概心裡要有個底了...囧(不負責任發言))
反正~人家不想就是不想麻,管他說什麼理由,勉強人總是不好的
別因此影響到自己心情啦~~~
แต่อันที่จริงนั่นก็เป็นการถนอมน้ำใจอย่างหนึ่งนะ แบบว่าไม่อยากปฏิเสธตรงๆ
(ดังนั้น พวกผู้ชายเวลาขอนัดผู้หญิงฟังให้ดี ถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธด้วยเหตุผลงี่เง่า
ก็จง... รู้อยู่แก่ใจได้แล้ว...)
เอาเป็นว่า ก็เค้าไม่อยากนี่นา ไม่ต้องไปสนใจว่าเหตุผลเขาคืออะไร ฝืนใจกันมันก็ไม่ดีจริงไหม
อย่าได้เสียอารมณ์กับเรื่องแบบนี้เลย


畢竟~
在意的人就輸啦~~~~(我的座右銘之ㄧ)
เพราะว่า
คนที่แคร์ คือคนที่แพ้~~~~~ (หนึ่งในคำขวัญประจำใจของฉันเอง)

ปัจฉิมลิขิต

ในเมื่อเพื่อนๆ ไม่เบื่อถ้าผมจะอัพถี่หน่อย

ก็ขออัพถี่นะครับ เพราะต้นเดือน ก.ค. ไปประเทศจีนหนึ่งเดือน

เกรงจะมาอัพไม่ได้ (อาจทิ้งทวนตูมเดียวตอนนั้นสักรอบ)

แต่อัพถี่แล้วไปตอบคอมเมนต์ไม่ทันอ่ะครับ

(ไม่ใช่ จขบ. ไม่ตอบคอมเมนต์ แล้วเพื่อนๆ ไม่คอมเมนต์นา

ไม่คอมเมนต์ไม่อัพต่อจริงๆ ด้วย งอนๆๆ มาง้อด้วย)

เอิ๊กๆๆๆ

เชิญชวนไปชมสไลด์ "จดหมายจากปี 2070" เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ในบอร์ดของ exteen ด้วยครับ

WANWAN ส่วน entry นี้

"คนที่แคร์ คือคนที่แพ้" เป็นคาถาวิเศษ ที่ผมเอาไว้บอกคนหลายๆ คนเหมือนกัน

ใช้ได้หลายๆ กรณีเลยแหละ

ถึงตอนนี้จะไม่ฮา แต่ผมชอบนะ

edit

ไม่ได้การๆ

เข้าใจผิดกันตรึม

คนที่แคร์ คือคนที่แพ้
ผมใช้กรณีว่า
เมื่ออีกฝ่ายทำอะไรให้เราต้องเจ็บช้ำน้ำใจ
เราจะ "เจ็บ" จะ "ช้ำ" ก็ต่อเมื่อเรา "แคร์"
เมื่อนั้น อีกฝ่ายก็จะ "บรรลุวัตถุประสงค์"
แล้วเรา "เจ็บ" "ช้ำ" อีกฝ่ายเห็นใจไหม ก็เปล่า
ดังนั้น หากไม่ "แคร์" ก็ไม่เจ็บช้ำ ก็จะชนะ

อย่าตีความ "แคร์" แบบนั้นสิ แง WANWAN

แวะไปอ่าน "เกิดมาซน ๒" ได้ที่อีกบ้านของผมนะครับ

WAN WAN COMICS